นักปั่นจักรยานกว่า 50 ชีวิต ปั่นจักรยานออกล่ารายชื่อมาตรการ "เมาขับจับขัง" บังคับใช้กม.จริงจัง จาก จ.เชียงใหม่ปลายทางกรุงเทพฯ เพื่อยื่นต่อนายกฯ เผยอยากได้ความปลอดภัยทางท้องถนน

 
           เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 3 พ.ค.58 ที่บริเวณลานหน้าอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายชนะ แพ่งพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พ.ต.อ.ปิยพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ ผู้กำกับการกลุ่มงานจราจรจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมกับกลุ่มนักปั่นจักรยานกว่า 50 คนรวมตัวกันปล่อยขบวนนักปั่นออกจากจังหวัดเชียงใหม่ปลายทางกรุงเทพฯเพื่อล่ารายชื่อเห็นด้วยต่อมาตรการ "เมาขับจับขัง" ยื่นเสนอต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 9 มิ.ย.นี้
 
           นายนาวิน กล่าวว่า การเมาขณะขับรถเป็นเรื่องที่สำคัญตามที่นโยบายของรัฐบาลได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างมากโดยนายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้มีการประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีการดำเนินการอย่างเข้มงวดเพื่อตรวจสอบป้องปรามผู้ที่เมาขณะขับรถให้มีการดำเนินการทางกฎหมายอย่างจริงจัง
 
           ทั้งนี้กิจกรรมครั้งนี้ทางชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพจังหวัดเชียงใหม่และอีกหลายชมรมร่วมกับมูลนิธิเมาไม่ขับได้รวมตัวกันปั่นจักรยานจากจังหวัดเชียงใหม่ถึงกรุงเทพฯ ระยะทางกว่า 700 กม.เพื่อล่ารายชื่อต่อมาตราการ เมาขับจับขัง ยื่นเสนอต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อที่จะดำเนินการให้มีความเข้มงวดทางมาตรการทางกฎหมายต่อผู้ที่เมาแล้วขับเพื่อที่จะเป็นการป้องปรามการเกิดอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นบนท้องถนนอย่างจริงจัง โดยกิจกรรมครั้งนี้ขอให้กลุ่มนักปั่นทุกคนเดินทางโดยสวัสดิภาพมีความปลอดภัยและทำภารกิจสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
 
           พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ กล่าวว่า กิจกรรมการปั่นครั้งนี้ได้มีการประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ที่กลุ่มนักปั่นใช้เป็นเส้นทางไปยังกรุงเทพฯ เพื่อให้มีรถเจ้าหน้าที่ตำรวจรวจขับนำขบวนและท้ายขบวนเพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับกลุ่มนักปั่นตลอดเส้นทาง สำหรับการดำเนินการเพื่อป้องกันการเมาแล้วขับเจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มงานจราจรได้มีการเข้มงวดในการตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์เกือบทุกพื้นที่ในจังหวัดเชียงใหม่และหากผู้ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์เกิน 50 มิลลิกรัมก็ได้มีการดำเนินการทางกฎหมายอย่างเข้มงวด
 
           นายกฤษดา กำแพงแก้ว อุปนายกชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า กิจกรรมปั่นจักรยานวันนี้ก็เป็นวันครบรอบ 1 เดือนของกลุ่มนักปั่นจักรยาน อ.สันทรายที่ถูกรถยนต์ที่ผู้ขับมีอาการมึนเมาสุราชนเสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บสาหัส 2 ราย และเป็นวันแรกที่กลุ่มนักปั่นจักรยานทั่วประเทศไทยจะเริ่มปั่นล่ารายชื่อเพื่อเพิ่มมาตรการเมาขับจับขังเพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน
 
           "สำหรับกิจกรรมครั้งนี้เนื่องจากบรรดานักปั่นทุกคนเป็นผู้ที่รักษสุขภาพ โดยไม่อยากให้กลุ่มนักปั่นจักรยานและผุ้ที่ใช้รถใช้ถนนในชีวิตประจำวันเกิดความไม่มั่นใจในความปลอดภัยของการใช้จักรยานบนท้องถนน จึงได้ดำเนินการล่ารายชื่อเพื่ออยากให้มาตราการเมาขับจับขังนี้เกิดขึ้นได้จริงเพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนในประเทศไทย" นายกฤษดา กล่าว

ภาพจากคุณ Ake Sansai Cnx กลุ่ม เสือสันทราย เชียงใหม่
 
           นางสาวก้องกานต์ ย่องลั่น บุตรสาวนักปั่นจักรยานที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์รถยนต์ชนจักรยานเมื่อวันที่ 3 พ.ค. กล่าวว่า ตนไม่ได้เป็นนักปั่นจักรยานมืออาชีพโดยจะปั่นเท่าที่กำลังจะสามารถไปได้ แต่ก็ตั้งใจที่จะปั่นไปให้ถึงกรุงเทพฯ เพื่อพ่อของตนเองที่เสียชีวิตไปและอยากทำให้คนที่อยู่บนท้องถนนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินเพิ่มมากขึ้นอย่างไรก็ตามอยากจะขอให้ผู้ที่มีอาการมึนเมาให้ความร่วมมืออย่าขับรถขณะที่มึนเมาเพื่อความปลอดภัยของตัวเองและคนรอบข้างรวมถึงผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวที่ต้องมาได้รับผลของการกระทำที่เมาแล้วขับ
 
           ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศบริเวณลานหน้าอนุสาวรียสามกษัตริย์เป็นไปอย่างครึกครื้นกลุ่มนักปั่นกว่า 50 ชีวิต ร่วมกันใส่เสื้อสีขาวแถบสีส้ม สกรีนข้อความ เมา+ขับ=จับ+ขัง โดยจะปั่นไปรวมตัวกันที่ จ.ลำพูน เพื่อล่ารายชื่อก่อนจะปั่นไปพักค้างคืนที่ จ.ลำปาง และกลุ่มนักจะปั่นทั่วประเทศจะปั่นไปถึงกรุงเทพฯ พร้อมกันวันที่ 8 มิ.ย.และจะทำการยื่นรายชื่อต่อ นายกรัฐมนตรี ในช่วงเช้าวันที่ 9 มิ.ย.ต่อไป